ยศของล็อบบี้สัญชาติยังไร้อาเจียนเข้าเรือนจำเพราะการปล้น
ในเหตุการณ์ล่าสุดที่เข้าสู่ตำนานอาชญากรรมของรัฐออริกอน นักหมายการของรัฐที่เป็นที่รู้จัก Earl “Joey” Gilliam III ลูกชายของ Joe Gilliam ถูกมอบอำนาจโพวเออร์ออฟอทอร์นี นำเข้าจำนวนเงินที่มากถึงหลายแสนดอลลาร์เพื่อใช้ในการใช้ส่วนบุคคลรวมถึงเหล้าและการพนัน แล้วถูกส่งเข้ารัฐจำในรัฐออริกอน
ล็อบบี้ลูกชายได้รับโทษปล้นเพราะ 2.5 ปี
คดีอาชญากรรมเกี่ยวข้องกับ Earl “Joey” Gilliam III ลูกชายของ Joe Gilliam หนึ่งในนักหมายของรัฐที่มีชื่อเสียง ที่ถูกส่งเสียชีวิตอย่างลึกลับเป็นระยะเวลาสองครั้ง ในที่สุด Joe Gilliam ถูกทำให้เข้าสภาสถานในสภากรรม ในขณะที่ลูกชายของเขาได้มอบอำนาจโพวเออร์ออฟอทอร์นี และนำเงินจำนวนมากเป็นพันล้านให้กับบิดาของเขา แต่ไม่นานหลังจากนั้นการกระทําที่ผิดกฎหมายได้ถูกค้นพบและส่งผลให้ Joey Gilliam ถูกฟ้องโดยกฎหมาย
ในเดือนมีนาคม 2567 เขาประกาศตัวว่าตัวเองผิด 1 ข้อและ 4 ครั้งของการปล้นอย่างรุนแรง การป้องกันของชายคนนี้ต้องการการสอบสวน แต่อุทธรณ์ต้องการส่งเขาไปนอกเขตรัฐประทวงเขาไปเรือนจำเพื่อ 52 เดือน การส่งโทรมของจอห์นส์เป็นเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่ Clackamas County Circuit Judge Jeffrey S. Jones ได้สั่งเขาไปนอกเขตรัฐและคืนเงินตามที่ประกาศโดย Willamette Week
การส่งโทษแกว่งชายชากล้า อุณหภาพครบทั้ง 2.5 ปี และ 372,000 ดอลลาร์
ตอนสุดท้ายการจัดการของ Joe Gilliam ถูกให้ไปอยู่ในสภากรรมและจัดการเงินตามที่ออกใบสั่งโดย Clackamas County Circuit Judge Jeffrey S. Jones ในเดือนก่อนหน้านี้ ถูกเขาไปอย่างรวดเร็วใน 1 ปีหรือ 2.5 ปีในเรือนจํา นอกจากนี้ยังมีการสั่งเงินตอบแทน 372,000 ดอลลาร์ หลังจากที่ Joey Gilliam ให้ระยะเวลาให้ระยะเวลาให้ให้ให้ให้ให้ให้ 3 ปี
ระหว่างการที่ผู้ใหญ่ของ Joey Gilliam ร้องขอให้ผู้พิพากษาทำให้ชายน้อยไปที่คุมประมูล หญิงร้องขอว่าหนุ่มประสบการรักษาสุขภาพจิตที่เหมาะสม ฮาร์วี้ก็บอกว่า Joey Gilliam เป็น “พ่อที่ยอดเยี่ยม” ของเธอ กับของเธอ 2 ซึ่งเป็นของเธอ เศรษฐกิจ หากเขาไปเรือนจำจะเปลี่ยนชีวิตของเด็กสาวของเขาตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาโจนส์อภิปรายว่า “วิธีการที่ระบุที่นั่นสำหรับการลดลงไม่ที่เกี่ยวกับการออกเดปาร์ทเชอะ” เขาเพิ่มว่า แม้ว่าถ้าเป็นเช่นนั้นคําสั่งคุณค่าไม่ใช่การสุ่มเกินมากเมื่อเทียบกับอาชญากรรมของชาย
โทษลึกลับที่ทิ้งให้บิดาของชายน้อยอยู่ที่สภาจิตใจ
Gilliam บิดา ถูกทำให้เข้าสภาเสียชีวิตเป็นครั้งแรกในปี 2563 ไม่ชัดเจนว่าผู้คนคนใดรับผิดชอบกระทํา แต่ชายนั้นสามารถหายไปก่อนที่จะถูกทำให้เข้าสภาอีกครั้งในครึ่งแรกของปี 2564 ครั้งที่ Joe Gilliam ถูกทำให้เข้าสภาต่อไปทําให้เขาไม่สามารถทําให้เขาเจริญอาหารพูดหรือดูแลตัวเอง
ยาที่ทิ้งให้ผู้ชายอยู่ในสภาขึ้นคือทัลเลียม เหล็กที่เป็นพิษมากที่ใช้ในเหลือการละลายน้ำ และสามารถดูดซึมผ่านผิวของคน ร้ายแรงเพราะ “รอยแผนการอนุรักษ์” และ “สารพิษของผู้ทำลาย” ทัลเลียมนำมาสู่ความตายของคนสูงมาก หลายคนที่ถูกทำให้เข้าสภาโดยไม่รู้สาเหตุว่ามีความพิษอยู่ประการที่ผู้เสียหายเนื่องจากเหลือไม่มีกลิ่นและรสชาติ ทําให้ปรายชิ้นที่เป็นของผู้เสียหาย
หลังจาก Joe Gilliam ถูกทำให้เข้าสภา ลูกชายของเขาได้รับการเข้าถึงทรัพย์สินของเขารวมถึงบัญชีธนาคาร จอห์นออกจ่ายเงินประมาณ 400,000 ดอลลาร์ ที่ใช้สําหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการพนันเหล้าค้างคาวและการเดินทางรถยนต์ใหม่
ความเชื่อในการเล่นการพนัน
การปล้นของ Earl “Joey” Gilliam III ลูกชายของ Joe Gilliam นั้นเกิดจากความเชื่อที่แน่นอนในการเล่นการพนัน การพนันถือเป็นกิจกรรมที่มีการเสี่ยงสูงและมักเกิดปัญหาทางสุขภาพจิตและสังคม โดยเฉพาะในสังคมที่มีลิขิตอนศาสตร์เข้มงวดอย่างออริกอน
ผลกระทบของการพนันต่อครอบครัว
การพนันไม่เฉพาะเสี่ยงต่อผู้ที่เล่นเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อครอบครัวและคนรอบข้างด้วย ความเสียหายทางการเงินและความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นจากการพนันสามารถทำให้ครอบครัวและคนรอบข้างต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากและไม่พึงประสงค์
การเข้าถึงทรัพย์สินโดยไม่ถูกต้อง
การเข้าถึงทรัพย์สินโดยไม่ถูกต้องเป็นปัญหาที่สำคัญในกรณีนี้ เนื่องจาก Earl “Joey” Gilliam III ได้เข้าถึงทรัพย์สินของบิดาเพื่อใช้ในกิจกรรมการพนันและการเล่นการพนัน การกระทำนี้ไม่เพียงเสียหายต่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวและสังคมรอบข้างด้วย
การป้องกันและการช่วยเหลือ
เพื่อป้องกันความเสียหายจากการเล่นการพนัน สำคัญที่จะมีการสนับสนุนและการช่วยเหลือในทางที่เหมาะสมสำหรับบุคคลที่มีปัญหาการพนัน โดยให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับการรับมือกับปัญหานี้ รวมถึงการสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชนในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการฟื้นฟูและการปรับตัว
ในสรุป, กรณีของ Earl “Joey” Gilliam III นำเสนอถึงผลกระทบที่ส่งผลต่อบุคคลและครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับการพนันและการตามล่าอำนาจโพวเออร์ออฟอทอร์นี โดยเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้เราสามารถเห็นความสำคัญของการรับมือกับปัญหาการพนันและการพยายามป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมนี้